การใช้ยางที่ถูกต้อง
- ควรเลือกประเภทโครงสร้างและขนาดของยางที่ใช้ ให้เหมาะสมกับชนิดของยานพาหนะ สภาพการใช้งานและสภาพพื้นผิวถนนและเป็นไปตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น ไม่ควรใช้ยางสำหรับรถยนต์นั่ง กับรถกระบะ รถตู้ หรือรถบรรทุก รถตู้ เป็นต้น
- น้ำหนักบรรทุกต่อยางแต่ละเส้นในแต่ละตำแหน่งล้อ
- เพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัย ไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่าขีดจำกัดความเร็วสูงสุดของยาง
- เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรสลับตำแหน่งยางอย่างสม่ำเสมอ
- ในกรณียางที่ใช้ยางใน หรือยางรอง ต้องใช้ยางใน หรือยางรองที่ระบุขนาดตรงกับยางนอกเท่านั้น และต้องเปลี่ยนยางใน และ/หรือยางรองทุกครั้งที่เปลี่ยนยางนอก
- ยางที่ใช้ยางใน (TUBE TYPE) ต้องใช้ยางในทุกคร้ังและห้ามใช้กับยางที่ไม่ใช้ยางใน (TUBELESS)
- ในกรณียางใหม่ ควรเตรียมความพร้อมของยาง โดยการวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. เป็นระยะทางอย่างน้อย 200 กม.หรือวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. เป็นระยะทางอย่างน้อย 300 กม. ก่อนการใช้งาน
- ห้ามใช้ยางที่สึกหรอจนถึงจุดที่กำหนด (TREADWEAR INDICATOR)
- ศูนย์ล้อและช่วงล่างของรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยบริษัทรถยนต์และต้องหมั่นตรวจสอบในเวลาที่ เหมาะสม
การเติมลมยาง
- ปัญหายางส่วนใหญ่มักเกิดจากการเติมลมยางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลเสียต่อสมรรถนะการขับขี่และอายุการใช้งานของยาง ดังนั้น ควรเติมลมยางให้พอดีกับมาตรฐานที่กำหนด
- เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ได้ค่าความดันลมยางที่ถูกต้อง ควรทำการปรับความดันลมยางในขณะที่ยางยังอยู่ในอุณหภูมิ ปกติ
- ในกรณีที่ขับทางไกลและวิ่งด้วยความเร็วสูง ควรเพิ่มความดันลมยางให้มากกว่ามาตรฐาน 3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อป้องกัน การเกิดความร้อนสูงอันเนื่องมาจากการบิดตัวของโครงยาง
- โปรดใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษขณะเติมลมยาง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะเติมลม
- ควรหมั่นตรวจวัดความดันลมยาง การรั่วซึมของความดันลมยางและการปิดฝาวาล์วให้แน่นอย่างสม่ำเสมอ
- ควรหมั่นตรวจวัดความดันลมยาง การรั่วซึมของความดันลมยางและการปิดฝาวาล์วให้แน่นอย่างสม่ำเสมอ
- คำแนะนำเกี่ยวกับการเติมความดันลมยางจากผู้ผลิตรถยนต์จะติดอยู่บริเวณประตูรถยนต์
การเปลี่ยนยาง
- ก่อนทำการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยางที่เหมาะสม โดยดูจากขนาด อัตราชั้นผ้าใบ ความสามารถในการรับน้ำหนักและ ความเร็วสูงสุดของยางเดิมที่ประกอบมาจากโรงงานประกอบรถยนต์
- ตรวจสอบความผิดปกติ หรือความเสียหายของยางและกระทะล้อ อีกทั้งตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมก่อนทำการประกอบยาง
- หลังจากการประกอบยาง ควรเช็คระยะห่างระหว่างเส้นขอบยางกับกระทะล้อให้มีความสม่ำเสมอตลอดวงล้อ
- ในกรณียางที่ใช้ยางใน (TUBE TYPE) เมื่อเปลี่ยนยางนอกใหม่ควรเปลี่ยนยางในและยางรองใหม่ทุกครั้ง
- ในกรณียางที่ไม่ใช้ยางใน (TUBELESS) เมื่อเปลี่ยนยางใหมควรเปลี่ยนวาล์วใหม่ทุกครั้ง
- ควรตรวจสอบความเรียบร้อยของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดก่อนนำไปประกอบ
- ผู้ทำการประกอบยางควรเป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะเท่านั้น
- โปรดใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพื่อให้เกิดความเคยชินสำหรับกรณีการเปลี่ยนประเภทหรือขนาดของยางที่ต่างไปจากเดิม
การใช้ยางต่างประเภท
การใช้ยางต่างประเภท หรือต่างขนาดในเพลาเดียวกัน จะทำให้สูญเสียสมรรถนะการขับขี่รวมถึงการทรงตัวและการเบรค เนื่องจากคุณสมบัติที่แตกต่างกันและการแปรสภาพของยางขณะขับขี
ในกรณียางรันแฟลต
- ยางรันแฟลตต้องใช้กับรถยนต์ที่ติดตั้งยางรันแฟลตและระบบตรวจวัดความดันลมยาง (TPMS) ซึ่งติดตั้งมาจากโรงงาน ประกอบรถยนต์เท่านั้น
- การเลือกใช้กระทะล้อสำหรับยางรันแฟลต ควรเลือกใช้กระทะล้อที่ออกแบบมาสำหรับ ยางรันแฟลต
- รถยนต์ที่ติดตั้งยางรันแฟลตควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น
- หากพบความชำรุดเสียหายของยาง โปรดศึกษาคู่มือประกอบรถยนต์ ในกรณีที่คู่มือประกอบรถยนต์ระบุให้สามารถ ซ่อมแซมยางรันแฟลต ที่ติดตั้งมาจากโรงงานประกอบรถยนต์ได้ ควรติดต่อศูนย์บริการมาตรฐานที่ผ่านการรับรองการให้ บริการยางรันแฟลตเพื่อพิจารณารับการซ่อมแซม
- รถยนต์ที่ติดตั้งยางรันแฟลตมาจากโรงงานประกอบรถยนต์ห้ามใช้ยางที่ไม่ใช่ยางรันแฟลต
ในกรณียางหล่อดอก
- ยางหล่อดอกที่ใช้ยางใน หรือยางรอง ต้องใช้ยางใน หรือยางรองที่ระบุขนาดตรงกับยางนอก
- กรณียางล้อคู่ ควรใช้ยางหล่อดอกที่มีขนาดและประเภทเดียวกัน และมีความลึกร่องดอกใกล้เคียงกัน (ยางหล่อดอกที่มีขนาดเดียวกันหมายถึงยางที่หล่อดอกโดยใช้โครงยางเดิมและลายดอกเหมือนกัน)
- โครงยางรถบรรทุกและรถโดยสารที่ผ่านการใช้งานมาแล้วย่อมมีสภาพแตกต่างกับยางใหม่ ทั้งนี้ความคงทนของโครงยาง ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการดูแลรักษาลมยางเป็นสำคัญ
- การใช้ยางหล่อดอกต่างประเภท หรือต่างขนาดในเพลาเดียวกัน จะส่งผลเสียต่อสมรรถนะการขับขี่อย่างรุนแรง รวมถึงการ ทรงตัวและการเบรก เนื่อจากคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และการแปรสภาพของยางขณะขับขี่
- ห้ามนำยางหล่อดอกไปใช้ในตำแหน่งล้อหน้า
ข้อควรปฏิบัติเมื่อสูญเสียความดันลมยาง
- ภายหลังจากสูญเสียความดันลมยางที่ระบบตรวจวัดความดันลมยางเตือน ห้ามใช้ความเร็วเกิน 80 กม./ชม. และระยะทาง สูงสุดที่ 80 กม. หรือปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือของผู้ผลิตรถยนต์
- ระยะทางสูงสุดที่สามารถขับขี่ได้เมื่อสูญเสียความดันลมยางที่ระบบตรวจวัดความดันลมยางเตือนนั้น อาจลดลงได้ในบางกรณี เช่นการขับขี่ภายใต้สภาพอากาศร้อน เป็นต้น
- เมื่อสูญเสียความดันลมยางที่ระบบตรวจวัดความดันลมยางเตือน ให้ติดต่อศูนย์บริการมาตรฐานที่ผ่านการรับรองการให้ บริการยางรันแฟลต
การเก็บรักษายาง
เพื่อให้ยางที่ยังไม่ได้นำไปใช้งาน มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ ควรปฏิบัติดังนี้
- ป้องกันการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่อาจทำอันตรายต่อยาง เช่น ตะปู ของมีคม น้ำมัน สารเคมีต่างๆ
- ป้องกันวัตถุแปลกปลอมจากภายนอกหรือน้ำเข้าไปในท้องยาง
- หลีกเลี่ยงการเก็บยางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง
- เก็บยางให้ห่างจากความร้อนหรือประกายไฟ
- แยกประเภทของยางให้ชัดเจน จัดวางในแนวตั้งและมีแสงสว่างพอเพียง หากวางซ้อนกันให้ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด
คำเตือน
- ต้องใช้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระทะล้อให้ตรงกับขนาดของยาง
- ไม่ควรให้น้ำยาเคลือบเงาและ/หรือน้ำยาหล่อลื่นที่ใช้กับยางและ/หรือกระทะล้อติดบริเวณหน้ายางเพราะอาจก่อให้เกิด การลื่นผิดปกติ
- โปรดหลีกเลี่ยงการใช้งานในขณะที่ลมยางอ่อน
- ควรลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ขณะถนนเปียก มีสิ่งกีดขวาง หรือขรุขระ
- ควรหมั่นตรวจสอบสภาพของยางอย่างสม่ำเสมอ
- ในกรณียางที่ความชำรุดเสียหาย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนนำไปใช้งาน
- ในกรณีที่จอดรถไว้เป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีการเคลื่อนย้าย อาจเป็นสาเหตุทำให้โครงยางเกิดความเสียหาย ดังนั้นก่อน การนำไปใช้งาน ควรตรวจสอบเป็นพิเศษ
- ควรหลีกเลี่ยงการออกรถ เร่งความเร็ว การเลี้ยวหรือการหยุดรถโดยกระทันหันซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ยางรถยนต์
- ควรตรวจสอบสภาพและความดันลมยางของยางอะไหล่อย่างสม่ำเสมอ
- ในกรณีที่ขณะขับขี่เกิดการสั่นของพวงมาลัย ได้ยินเสียง การสั่น หรือรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติอื่นๆ ให้หยุดรถในสถานที่ที่ ปลอดภัยโดยเร็วที่สุดและทำการตรวจสอบรถยนต์และยางว่ามีการสูญเสียรูปหรือสิ่งผิดปกติอื่นๆ ที่ยางหรือไม่ ทั้งนี้ให้ ท่านนำรถยนต์ของท่านเข้ารับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งถึงสิ่งผิดปกติดังกล่าว
- การทำเครื่องหมายใดๆ ที่ยางควรทำในจุดที่กำหนดโดยบริษัทยางรถยนต์เท่านั้น
- โปรดหลีกเลี่ยงการใช้ยางที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
- โปรดศึกษาข้อมูลการใช้ยางและคำเตือนเพิ่มเติมจากฉลาก แผ่นพับ และคู่มือ
ที่มาของข้อมูล : บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดที่มาของข้อมูล : https://www.bridgestone.co.th/products/product-general-direction.aspx?carTyp=2